Page 15 - SPRC_SD_16_TH
P. 15
ภายหลงั จากการขายหนุ้ สามญั ใหแ้ กป่ ระชาชนทวั่ ไป เชฟรอนยงั คงเปน็ ผู้ถือหุ้นหลัก โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมดมากกว่าร้อยละ 60
บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์น่ิง จําากัด (มหาชน)
เอสพีอาร์ซีขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในสัดส่วนประมาณร้อยละ 80 ผ่านสัญญารับซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดทําไว้กับเชฟรอนและ บมจ. ปตท. เปน็ หลกั โดยผลติ ภณั ฑส์ ว่ นทเ่ี หลอื ไดจ้ ดั จาํ หนา่ ยใหล้ กู คา้ ในกลมุ่ ธรุ กจิ ปิโตรเคมีในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งนําไปเป็นผลิตภัณฑ์ต้ังต้น ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เช่น โพรพิลีนเกรดโพลิเมอร์ และแนฟทาเบา
ในปี 2559 ปริมาณรวมผลิตภัณฑ์ได้ลดลงร้อยละ 3.4 เม่ือเปรียบเทียบ กับปี 2558
ปริมาณยอดขาย ปี 2559
รายละเอียดโครงสร้างผู้ถือหุ้น
ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญ (PRE-IPO)
64%
36%
หลงั การเสนอขายหนุ้ สามญั (POST-IPO)
60.6% 5.4% 34.0%
เชฟรอนในฐานะผถู้ อื หนุ้ หลกั ของบรษิ ทั ฯ ยงั คงสนบั สนนุ เพอื่ เสรมิ สรา้ ง ผลกาํ ไรอยา่ งมนี ยั สาํ คญั ใหแ้ กบ่ รษิ ทั ฯ ผา่ นการดาํ เนนิ การจดั ซอื้ จดั จา้ ง นํ้ามันดิบและวัตถุดิบต่างๆ การรับซื้อผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ครอบคลุม ทั้งในและต่างประเทศ การสนับสนุนในเรื่องเทคโนโลยีที่ล้ําสมัย การดาํ เนนิ การกลน่ั และวศิ วกรรมตา่ งๆ รวมถงึ ขอ้ ตกลงดา้ นการจดั หา วัสดุและบริการภายใต้การดําเนินงานของเชฟรอน
ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เอสพีอาร์ซีผลิตนํ้ามันและผลิตภัณฑ์ ปโิ ตรเลยี มอนื่ ๆ โดยมงุ่ เนน้ ตลาดภายในประเทศไทยเปน็ หลกั ผลติ ภณั ฑ์ หลักได้แก่ นํ้ามันเบนซิน นํ้ามันเช้ือเพลิงอากาศยาน และน้ํามันดีเซล บริษัทฯ ต้ังอยู่ท่ีนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยมี ความสามารถในการกลนั่ นาํ้ มนั ดบิ 165,000 บารเ์ รลตอ่ วนั คดิ เปน็ กาํ ลงั การผลิตร้อยละ 13.4 ของกําลังการกล่ันนํ้ามันดิบทั้งหมดของ ประเทศไทย โดยบริษัทฯ สามารถจําหน่ายผลิตภัณฑ์นํ้ามันเบนซินกว่า ร้อยละ 24 ของความต้องการภายในประเทศ
น้ํามันดีเซล น้ํามันเบนซิน น้ํามันเตา นํ้ามันอากาศยาน โพรพิลีนเกรดโพลีเมอร์ ก๊าซแอลพีจี ยางมะตอย
อื่นๆ
(HVGO, Naptha, Mix C4 & RC4, Sulfur)
13.6%
6.8% 11.6%
34.9% 24.4%
รายงานการพัฒนาอย่างย่ังยืน 2559
15
1.9%
4.4%
2.4%
ประชาชนทั่วไป
โรงกลั่นนํ้ามันของบริษัทฯ เป็นโรงกลั่นน้ํามันแบบที่มีหน่วยปรับปรุง คุณภาพนํ้ามัน (Complex Cracking Refinery) ซึ่งได้แก่ หน่วยแตก โมเลกุลด้วยตัวเร่งปฏิกิริยา (RFCCU) ซึ่งสามารถปรับปรุงนํ้ามันเตา ให้เป็นน้ํามันสําหรับการขนส่งที่มีมูลค่าสูงกว่า ซ่ึงได้แก่ น้ํามันเบนซิน น้ํามันอากาศยาน และน้ํามันดีเซล
